อาการ ตามัว เป็นฝ้า หมอกตลอดเวลา มองเห็นภาพไม่ชัด อาจเป็นสัญญาณของ ต้อกระจก โรคต้อกระจกเป็นความเสื่อมของเลนส์แก้วตาที่ไม่ใช่โรคอันตราย สามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน ซึ่งเกิดจากความเสื่อมของอายุ ไม่ว่าเพศไหน สัญชาติอะไร ล้วนเป็นทุกคน เมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้หมอจะพามาทำความรู้จักกับโรคต้อกระจกให้เข้าใจว่า โรคต้อกระจกคืออะไร มีสาเหตุจากไหน อาการเป็นอย่างไร มีวิธีการรักษาแบบไหน แล้วถ้าเป็นต้อกระจกแล้วควรเลือกเลนส์แก้วตาที่เหมาะสมอย่างไร ไปจนถึงขั้นตอนการดูแลหลังผ่าตัดกันค่ะ
สรุปประเด็นสำคัญ (Key Takeaways)
-
บรรเทาอาการตาล้า: แว่นกรองแสงช่วยลดอาการปวดตา ตาล้า และตาแห้งที่เกิดจากการทำงานหน้าจอเป็นเวลานานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์: การเลือกประเภทเลนส์ให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เช่น เลนส์ Blue Block สำหรับคนทำงานหน้าจอเป็นหลัก และ เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ สำหรับผู้ที่ต้องเข้า-ออกอาคารบ่อยครั้ง
-
ไม่ใช่แค่เรื่องสายตา: การกรองแสงสีฟ้าในช่วงกลางคืนสามารถช่วย ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ ได้ เนื่องจากแสงสีฟ้าจะรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน
-
เครื่องมือเสริม ไม่ใช่ทางแก้ทั้งหมด: เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อสุขภาพตา ควรใช้แว่นกรองแสงควบคู่ไปกับการ ปรับพฤติกรรม เช่น การพักสายตาตามกฎ 20-20-20 (พักสายตาทุก 20 นาที มองไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที)
รู้จัก แสงสีฟ้า ภัยเงียบที่มาพร้อมหน้าจอ
แสงสีฟ้า คืออะไร?
แสงสีฟ้า (Blue Light) หรือที่รู้จักในชื่อ High-Energy Visible (HEV) light เป็นคลื่นแสงพลังงานสูงที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 380-500 นาโนเมตร แสงชนิดนี้มีอยู่ทุกที่รอบตัวเรา โดยแหล่งกำเนิดที่ใหญ่ที่สุดคือ ดวงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังพบได้ในอุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ ที่เราใช้งานเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งหลอดไฟ LED แสงสีฟ้ามีทั้งคุณและโทษต่อร่างกายของเรา ดังนี้
ประโยชน์ของแสงสีฟ้า
-
ควบคุมนาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm): แสงสีฟ้าในตอนกลางวันช่วยให้ร่างกายรับรู้ว่าเป็นช่วงเวลากลางวัน ทำให้เรารู้สึกตื่นตัวและกระฉับกระเฉง
-
กระตุ้นการทำงานของสมอง: ช่วยเพิ่มความตื่นตัว การจดจำ และประสิทธิภาพการรับรู้
โทษของแสงสีฟ้า (เมื่อได้รับมากเกินไป)
-
อาการตาล้า (Digital Eye Strain): การจ้องหน้าจอนาน ๆ ทำให้เกิดอาการปวดตา เมื่อยตา และอาจนำไปสู่การปวดศีรษะ
-
ตาแห้งและแสบตา: อัตราการกะพริบตาของเราจะลดลงอย่างมากเมื่อเพ่งหน้าจอ ทำให้ผิวตาขาดความชุ่มชื้น
-
รบกวนการนอนหลับ: แสงสีฟ้าในช่วงกลางคืนจะยับยั้งการหลั่ง เมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการนอนหลับ ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท
-
ความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตา: แม้ว่างานวิจัยในมนุษย์ยังต้องการข้อสรุปที่ชัดเจน แต่มีการศึกษาในห้องปฏิบัติการที่ชี้ให้เห็นว่าการได้รับแสงสีฟ้าปริมาณสูงเป็นเวลานานอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ทำให้เซลล์ในจอประสาทตาเสื่อมเร็วขึ้น ในระยะยาว
แว่นกรองแสง คืออะไร? และทำงานอย่างไร
แว่นกรองแสง คือ แว่นตาที่ใช้เลนส์ซึ่งมีเทคโนโลยีการเคลือบผิว หรือผสมสารพิเศษเข้าไปในเนื้อเลนส์ เพื่อทำหน้าที่ “กรอง” หรือ “ตัดทอน” แสงที่เป็นอันตรายต่อดวงตาออกไปก่อนที่จะมาถึงดวงตาของเรา
คุณสมบัติหลักของเลนส์กรองแสง
-
สารเคลือบมัลติโค้ท (Multicoat): เป็นการเคลือบผิวเลนส์พื้นฐานที่ช่วย ลดแสงสะท้อน บนผิวเลนส์ ทำให้ภาพคมชัด สบายตาขึ้น ป้องกันรังสี UV และยังเพิ่มความทนทานให้ผิวเลนส์ เช่น ป้องกันรอยขีดข่วน ลดการเกาะของฝุ่นและหยดน้ำ
-
สารเคลือบบลูบล็อก (Blue Block/Blue Cut): เป็นการเคลือบผิวเลนส์เพิ่มขึ้นอีกชั้น หรือผสมเข้าไปในเนื้อวัสดุเลนส์ มีคุณสมบัติหลักในการ ป้องกันแสงสีฟ้า โดยเฉพาะช่วงคลื่นที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
การทำงานของเลนส์กรองแสงสีฟ้าสมัยใหม่ใช้เทคโนโลยีทั้งการ ดูดซับ และการ สะท้อน แสงสีฟ้าพลังงานสูงที่เป็นอันตรายออกไป ขณะเดียวกันก็พยายามปล่อยให้แสงสีฟ้าช่วงที่เป็นประโยชน์ (เช่น แสงที่ช่วยในการมองเห็นสีที่คมชัด) ผ่านเข้ามาได้ ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายตามากขึ้นและมองเห็นสีสันเป็นธรรมชาติที่สุด
ประโยชน์ของแว่นกรองแสง
-
ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงอันตราย ทั้งรังสี UV และแสงสีฟ้า
-
ลดอาการตาล้า ปวดตา ตาแห้ง แสบตา จากการทำงานหน้าจอ
-
ช่วยให้ทำงานหน้าจอต่อเนื่องได้นานขึ้น
-
อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคตาบางชนิดในระยะยาว เช่น ต้อกระจก ต้อลม
-
ช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ หากสวมใส่ในช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน
แว่นกรองแสง จำเป็นสำหรับทุกคนหรือไม่?
คำถามนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยมากค่ะ หมอขอตอบว่า แว่นกรองแสงมีประโยชน์ที่สุดสำหรับผู้ที่ใช้งานหน้าจออย่างหนักและต่อเนื่อง แต่สำหรับคนทั่วไปที่ใช้หน้าจอไม่นาน อาจไม่ถึงกับจำเป็น แต่ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีในการถนอมสายตา
กลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากแว่นกรองแสงมากที่สุด:
-
พนักงานออฟฟิศ: ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
-
โปรแกรมเมอร์, กราฟิกดีไซเนอร์, เทรดเดอร์: อาชีพที่ต้องใช้สมาธิและความแม่นยำในการมองจอสูง
-
นักเรียน/นักศึกษา: ที่ใช้แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ในการเรียนออนไลน์และทำการบ้าน
-
เกมเมอร์: ที่ใช้เวลาเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน
-
ผู้ที่มีอาการตาไวต่อแสง หรือตาแห้งง่าย
ตามคำแนะนำของ American Academy of Ophthalmology แว่นตาสำหรับใช้คอมพิวเตอร์ (ซึ่งรวมถึงแว่นกรองแสงสีฟ้า) สามารถช่วยลดอาการตาล้าได้จริง แต่สิ่งสำคัญคือต้องใช้ควบคู่ไปกับการปรับสภาพแวดล้อมการทำงานและการพักสายตาอย่างสม่ำเสมอ
วิธีเลือกแว่นกรองแสง ให้เหมาะกับคุณ (คู่มือฉบับจับมือทำ)
การเลือกแว่นกรองแสงที่ดีที่สุด ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคลเป็นหลักค่ะ
| หัวข้อ | เลนส์กรองแสงสีฟ้า | เลนส์มัลติโค้ท | เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ |
| เหมาะกับใคร | ผู้ที่ใช้งานหน้าจออุปกรณ์ดิจิทัลเป็นประจำและอยู่ในอาคารเป็นหลัก | ผู้ที่ใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นจ้องจอหนัก แต่ต้องการความคมชัดและป้องกัน UV |
ผู้ที่ต้องสลับระหว่างการทำงานในอาคารและกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยครั้ง
|
| การกรองแสงสีฟ้า | สูง (20-50%) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและเทคโนโลยี | ต่ำ (5-15%) กรองได้บ้างจากคุณสมบัติของมัลติโค้ท |
ปานกลางถึงสูง (20-40% ในร่ม) และเข้มขึ้นเมื่อออกแดด
|
| การกรองแสง UV | สูงมาก (99-100%) | สูง (95-100%) | สูงสุด (มากกว่า 99%) ทั้งในร่มและกลางแจ้ง |
| วัสดุ/ดีไซน์กรอบ | ควรเน้น น้ำหนักเบา และสวมใส่สบาย เนื่องจากต้องใส่เป็นเวลานาน | เลือกได้ทุกรูปแบบตามความชอบ |
ควรเลือกวัสดุที่ทนทานต่ออุณหภูมิ เช่น โลหะ หรือพลาสติกคุณภาพสูง
|
| ข้อควรรู้ | เลนส์บางรุ่นอาจมีสีอมเหลืองเล็กน้อย แต่รุ่นใหม่ ๆ มีแบบใสเคลียร์เป็นธรรมชาติ | เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของเลนส์คุณภาพในปัจจุบัน |
รวมคุณสมบัติของเลนส์กรองแสงและแว่นกันแดดไว้ในอันเดียว สะดวกสบาย
|
สิ่งสำคัญที่สุด: ไม่ว่าคุณจะเลือกเลนส์ประเภทใด การตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดกับผู้เชี่ยวชาญ (นักทัศนมาตร) เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่ถูกต้องและคำแนะนำที่เหมาะสมกับดวงตาของคุณที่สุด
Mattaya Vision Center กับความเชี่ยวชาญด้านแว่นกรองแสงที่แตกต่าง
ร้านแว่น Mattaya Vision Center เราให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านแก่ลูกค้าเสมอ มีข้อควรรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์กรองแสงสีฟ้าดังนี้ค่ะ
-
เลนส์ติดเหลืองกับปัญหาสีเพี้ยน: เลนส์กรองแสงสีฟ้ารุ่นแรก ๆ มักมีสีอมเหลืองอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจไม่เหมาะกับอาชีพที่ต้องการความแม่นยำของสี เช่น กราฟิกดีไซเนอร์ หรือจิตรกร อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ทำให้มีเลนส์กรองแสงสีฟ้าที่เป็น เลนส์ใส ให้สีที่เป็นธรรมชาติ แต่ยังคงประสิทธิภาพการกรองแสงที่ดีเยี่ยม
-
หลักฐานทางวิทยาศาสตร์: แม้จะมีงานวิจัยบางชิ้น เช่น การทบทวนวรรณกรรมจาก Cochrane ที่เผยแพร่โดย University of Melbourne ซึ่งตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับหลักฐานที่ยังไม่ชัดเจนในด้านการลดความเมื่อยล้าของดวงตาในระยะสั้น แต่ผู้ใช้งานจำนวนมากทั่วโลกต่างยืนยันถึงความรู้สึกสบายตาขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อสวมใส่ ดังนั้น การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความสบายตาของแต่ละบุคคล
-
คุณภาพคือหัวใจ: เลนส์กรองแสงมีหลายเกรดในท้องตลาด การเลือกใช้เลนส์จากแบรนด์ชั้นนำที่เชื่อถือได้ จะรับประกันได้ถึงเทคโนโลยีการเคลือบผิวที่ทนทานและประสิทธิภาพการกรองแสงที่ได้มาตรฐาน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานหน้าจอเป็นเวลานาน เพราะช่วยลดอาการตาล้า ทำให้สบายตา และทำงานได้ดีขึ้น แต่สำหรับผู้ที่ใช้งานน้อย อาจไม่จำเป็นเท่า แต่ยังคงมีประโยชน์ในการถนอมสายตา
ได้ค่ะ แว่นกรองแสงที่ตัดอย่างถูกต้องตามค่าสายตา สามารถใส่ได้ตลอดทั้งวันเพื่อการมองเห็นที่คมชัดและปกป้องดวงตาจากแสงอันตรายต่าง ๆ ทั้งในและนอกอาคาร
สามารถใส่ได้ค่ะ โดยเฉพาะในยุคที่เด็ก ๆ เรียนออนไลน์และใช้แท็บเล็ตมากขึ้น เลนส์แว่นตาสำหรับเด็ก ทั้งเลนส์สายตาสั้นทั่วไปหรือเลนส์ควบคุมสายตาสั้น สามารถเพิ่มคุณสมบัติกรองแสงสีฟ้าได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการส่งเสริมให้เด็กได้พักสายตาและทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอ
จริงค่ะ โดยการลดปริมาณแสงสีฟ้าพลังงานสูงที่กระตุ้นให้เกิดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อตา ทำให้ดวงตาไม่ต้องทำงานหนักเพื่อสู้แสงจ้าจากหน้าจอ อาการปวดตาและเมื่อยตาจึงลดลง
สรุป
แสงสีฟ้าเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราและมีทั้งประโยชน์และโทษ แว่นกรองแสงสีฟ้า ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการ ลงทุนเพื่อสุขภาพดวงตา สำหรับคนในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานที่หลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอไม่ได้ การเลือกใช้แว่นกรองแสง ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลและการพักสายตาอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ดวงตาคู่สำคัญของเราอยู่กับเราไปได้อย่างยาวนานและมีสุขภาพดีค่ะ
อย่าปล่อยให้สายตาของคุณอ่อนล้าไปมากกว่านี้! นัดหมายเพื่อวัดสายตาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์กรองแสงของเราฟรี!
ผู้เขียนบทความ
แพทย์หญิง มัทยา ขวัญอโนชา (หมอหลิน)
จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตาและการมองเห็น
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา จักษุแพทย์ผู้ก่อตั้ง Mattaya Vision Center พร้อมวินิจฉัยและให้คำปรึกษาเฉพาะทางด้านเลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาสายตาซับซ้อนจากภาวะสายตายาวตามวัย
ประวัติการศึกษา:
-
แพทยศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1): จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-
วุฒิบัตรสาขาจักษุวิทยา: คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-
วุฒิบัตรการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อตาและตาสองชั้น: Korean College of Cosmetic Surgery (KCCS) ประเทศเกาหลีใต้

